มองไม่เห็นว่าเป็นอันใด เรียกว่า “ไร้รูป” ไม่ได้ยินว่าเป็นเสียงอันใด
เรียกว่า “ไร้เสียง” สัมผัสไม่ถูก
เรียกว่า “ไร้ตัวตน” สามประการดังกล่าว
คือ ความพิสดารแห่งเต๋า ตามหลักการนี้ แม้นกล่าวแยกกันได้
แต่เนื้อแท้เต๋านั้นเป็นหนึ่งเดียว
ส่วนโลกแห่งรูปธรรมนั้นต่างกัน
ด้านหนึ่งสว่างอีกด้านหนึ่งก็มืด เช่น ด้านบนสว่าง ด้านล่างมืด
เต๋าแทรกซ่านอยู่ทั่วฟ้าดิน
ในจักรวาลก็ดูเหมือนจะมี แต่ยากจะยืนยัน เพราะมันเป็นสิ่งละเอียดมาก
แม้นเต๋าจะให้กำเนิดสรรพสิ่ง แต่ก็ดูไม่ออกว่ามันให้กำเนิด นี้ก็คือ “รูป” ที่ไร้รูป
“ตัวตน” ที่ไร้ตัวตน
ฉะนั้นบางคนจึงว่า เต๋าเป็นเพียงราง ๆ
ไม่แน่นอนจะว่ามีก็ดูคล้ายไม่มี ไฉนเป็นดังนี้เล่า? เพราะถ้าท่านใคร่จะอยู่ข้างหน้าต้อนรับมัน
ก็มองไม่เห็นข้างหน้าของมัน ถ้าท่านใคร่จะอยู่ข้างหลังตามหลังมัน
ท่านก็มองไม่เห็นหลังของมัน
ฉะนั้น ปราชญ์จึงยึดหลักการของเต๋าที่มีแต่โบราณมาบริหารจัดการทุกสิ่งอย่าง
ข้าพเจ้าคิดว่า ผู้ที่รู้จักเต๋า ก็คือคนที่รู้ระบบของเต๋าอย่างดี
เพราะระบบของเต๋า ก็คือแก่นแท้ของเต๋า
นั่งสมาธิ มือซ้ายลูบอก มือขวาวางอยู่ข้างหลัง
กำหนดลมหายใจ รวบรวมอารมณ์ ทั้งหลายให้สงบนิ่ง เดินลมปราณกำลังภายในที่ได้เคล็ดลับจากคัมภีร์เต๋าเต็กเก็งฉบับสมบูรณ์
ธาตุอิมและเอี๋ยงในกาย หล่อหลอมกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์
กำลังภายในกลับเพิ่มพูนทวีคูณ
แขนขาทุกสัดส่วนปรอดโปร่งสบายอย่างบอกไม่ถูก
พละกำลังทั่วร่าง สมบูรณ์เปี่ยมล้น สมองปราดเปรียวกว่าเดิมมากนัก โสตประสาท กลับได้ยินเสียงของสิ่งรอบกาย
ดุจดังสิ่งของ มีชีวิตชีวา ที่แท้ในคัมภีร์เต๋าเต็กเก็ง
กลับแบ่งออกเป็น สองภาค ภาคแรก คือ เต็ก ภาคสอง คือ เต๋า
ภาคเต็กว่าด้วยคุณธรรมในการปกครอง ภาคเต๋า กลับเป็น อภิปรัชญา ซ่อนปริศนา
เคล็ดวิชากำลังภายใน
คัมภีร์เต๋าเต็กเก็งฉบับสมบูรณ์นี้
จางเหลียง ได้มาจาก ถ้ำน้ำตกนอกเมือง ตามบันทึกบ่งชี้ของผู้เฒ่าเหลือง ภายหลังจาก
เหตุการณ์ที่หานซิ่น ลอด ใต้หว่างขาเหล่าอันธพาล หลังจากนั้น
กลับมาโรงเตี้ยม ก่อนนอนได้
เดินกำลังภายใน หลายรอบๆ ก่อนจะนอนหลับไป เช้านี้
จางเหลียงวางแผนจักกลับไปที่บ้านที่เซี่ยพี การมาไหวอิง ครั้งนี้ นอกจากได้ คัมภีร์เต๋าเต็กเก็งฉบับสมบูรณ์
แล้วกลับพบกับ เหตุการณ์ ที่ทำให้ สะดุ้งตกใจ จางเหลียงคำนึง
ขึ้น ว่า
“บุคคลผู้นี้ แม้ว่าฝึกกำลังภายในชั้นสูง วิชาอาวุธ
การใช้กระบี่น่าจะสูงส่ง เช่นกัน กลับอ่อนข้ออดทนอดกลั้นให้กลับเหล่าอันธพาล
คราวหน้าถ้าได้พบเจอ เราจักต้องระมัดระวังบุคคลนี้ ให้ดี”
ในขณะที่เก็บเสื้อผ้า ข้าวของ เตรียมกลับ เซี่ยพี กลับได้ยิน เสียงพูดคุยกัน ของชาวยุทธ จางเหลียงไม่คิดจะสนใจ หาความยุ่งยากให้กับตนเอง ในขณะจะออกจากห้อง กลับได้ยินเสียงกล่าวถึง เม่อซุน และ เม่อซิวซิว
******หมายเหตุ ในยุคสงครามนี้ ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ การหยามเกียรติ ด้วยการให้ลอดหว่างขา เป็นการหยามเกียรติ ขั้นร้ายแรงที่สุดของผู้ชายยุคนั้น
ในขณะที่เก็บเสื้อผ้า ข้าวของ เตรียมกลับ เซี่ยพี กลับได้ยิน เสียงพูดคุยกัน ของชาวยุทธ จางเหลียงไม่คิดจะสนใจ หาความยุ่งยากให้กับตนเอง ในขณะจะออกจากห้อง กลับได้ยินเสียงกล่าวถึง เม่อซุน และ เม่อซิวซิว
******หมายเหตุ ในยุคสงครามนี้ ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ การหยามเกียรติ ด้วยการให้ลอดหว่างขา เป็นการหยามเกียรติ ขั้นร้ายแรงที่สุดของผู้ชายยุคนั้น