About

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ขอทานแห่งไหวอิง

สายน้ำไหลอย่างอ่อยอิ่ง ลมพัด เอื่อยๆ ขับขี่ม้าตามทางเดิน ริมลำน้ำ ที่ไกลตา ปรากฏ เมือง ไหวอิงอยู่เบื้องหน้า ตะวันบ่ายคล้อย ท้องเริ่มหิว ม้าที่ขี่คงต้องการน้ำ และหญ้า มองไปเบื้องหน้า เห็นหาดทรายริมน้ำ ชายฝั่งริมน้ำปรากฏหญ้าเขียวขจี เห็นสายน้ำ อดคิดถึงผู้เฒ่าเหลืองไม่ได้ กลับยิ้มกับตนเองไม่ได้ พลางกระตุ้นม้าไปยังริมน้ำ กระโดดลงจากหลังม้า ปล่อยม้าให้ดูดน้ำ


 จางเหลียงกวักน้ำล้างหน้าตา เมื่อล้างหน้าล้างตาเสร็จ กวาดสายตาไปตามชายหาด ทางปลายน้ำ หญิงชาวบ้าน สี่ห้าคน กำลังซักเส้อผ้าอยู่ กวาดตาไปริมชายฝั่ง เห็น ต้นไม้ใหญ่ สองสามต้นอยู่ห่างกัน แต่ละต้น ประมาณ ห้าหกวา ที่ให้ร่มไม้ร่มรื่น  จางเหลียงจึงหมายตา  ต้นไม้ใหญ่ต้นแรกเป็นร่มเงา พักผ่อน รับประทานเสบียงกรัง


ขณะนั่งลง จะล้วงสเบียงกรังออกมารับประทาน กลับได้ยินเสียง หญิงชาวบ้านวัยกลางคน กล่าวว่า



"หานซิ่นเอย หานซิ่น เจ้าก็โตเป็นหนุ่มแล้ว เหตุใดเจ้า นั่งงอมืงอเท้า ไม่ทำมาหากิน กลับมาขอข้าว ขออาหาร หญิง รับจ้างซักผ้า อย่างข้ากิน " 

จางเหลียงได้ยินแซ่ ว่า หาน กลับ ชงัก พักหนึ่ง ตั้งใจฟัง  และกวาดตาไปยังต้นเสียงนั้น กลับพบเห็นว่า ในระยะห่างออกไป ใต้ต้นไม้ที่สามนั้น ใต้ต้นไม้ กลับ มีชายหนุ่มผู้หนึ่ง นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ เสื้อผ้า ขาดรุ่งริ่ง ดุจดังขอทาน จางเหลียงครุ่นคิดขึ้นว่า

"หรือคนผู้นี้ เป็นคนแคว้นหานเดิม กลับมาตกระกำลำบากที่นี้ "

พร้อมกับเห็นหญิงกลางคนนั้น ส่งห่อ อาหารให้กับ ชายหนุ่มขอทานนั้น 

จางเหลียงรู้สึกสงสาร เตรียมจะแบ่งอาหารของตนที่มี ให้กับ ชายหนุ่ม ขอทานผู้นี้

กลับได้ยินชายหนุ่มขอทาน นั้น กล่าวตอบว่า 


"ท่านอา  หากวันใดข้าประสบ ความรุ่งเรือง จะตอบแทน ท่านอา เป็น คนแรก"

หญิงชาวบ้านวัยกลางคน กล่าวตอบว่า

" ใคร จะไปสนใจหละ ขอให้เจ้า มีกิน ใน วันนี้ พรุ่งนี้ ก่อนเถอะ"


แต่ จางเหลียง ได้ยินน้ำเสียง ของ ชายหนุ่มขอทาน นั้น กลับ

ตื่นตระหนกยิ่ง

น้ำเสียงของชายหนุ่มขอทาน นั้น กังวาน ทุ้มนุ่มลึกหนักแน่น  เป็น เสียง ของผู้ฝึกกำลังภายในชั้นสูง


จางเหลียงรู้ดังนั้น จึง ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยว รีบรับประทานอาหาร จึงรีบจากไปอย่างเงียบๆ



จางเหลียงรีบรุดเข้าตัวเมืองไหวอิง สืบเสาะหาโรงเตี้ยม พักผ่อน




อ่านต่อ ขอทานแห่งไหวอิง_2






0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Wikipedia

ผลการค้นหา