About

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

ประกาศิต สำนักเม่อ_2

เสียงแค่นดังเฮ่อ หัวหน้าโจรป่า ที่มีรอยสักบนหน้า ถือทวนยาว โถมแทงเข้าใส่จางเหลียง

ไม้รวกในมือจางเหลียง หวดใส่ คันทวนเสียงดังกังวาน พลังลมปราณอันหนักหน่วงสายหนึ่ง พุ่งกระแทกคันทวนเบี่ยงเบนออกไป จางเหลียงทิ้งไม้รวก สะอึกเข้าชิดหัวหน้าโจรป่า มือขวาคว้าจับคันทวนกระชากอย่างรุนแรง

ร่างนายโจรนั้นสั่นไหวหลายครา แต่ทวนไม่หลุดจากมือ  ยามนั้นเพิ่มพลังใส่มือขวา ตวาด "คลายมือ" เสียงก้องกังวาน นายโจรนั้น พลันมีละอองสีม่วง วูบขึ้นชั้นหนึ่ง แต่หายไปในพริบตาเดียว

พลันจางเหลียงฟาดพลังจากมือซ้ายเข้าใส่ นายโจรนั้น รีบยกมือซ้ายต้านรับ เสียงดังฉาดใหญ่

นายโจรนั้น พลันมีละอองสีม่วง วูบขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

จางเหลียงทราบว่า ถ้าตนเองเพิ่มพลังขึ้นอีกในตอนนี้ นายโจรใหญ่ต้องมีละอองสีม่วง วูบอีกครั้งหนึ่ง เป็นครั้งที่สาม  อวัยวะภายใน ต้องบาดเจ็บสาหัสล้มตายอย่างแน่นอน

นายโจรป่านั้น ทุ่มเทกำลังภายใน สุดตัว ยังคงไม่สามารถส่งกำลังภายในเข้าสู่ทวนได้ สักน้อยนิด  จึงคลายมือจากทวนออก กระโดดปราดออกไป

ละอายจึงสีหน้าแดงคล้ำ กล่าวเสียงกังวานว่า

"ขอเรียนถามชื่อแซ่ที่ยิ่งใหญ่ ของพี่ท่านที่นับถือ "

จางเหลียงกล่าวตอบว่า

" อัน ชื่อแซ่ที่ยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้า นั้นไม่มี "


หัวหน้าโจรป่านั้น กลับ สำรวจจางเหลียง อีกครั้ง เห็น ชายผู้นี้ รูปร่างสัดทัด ประกายตาเจิดจ้า หน้าตาดังปราชญืผู้คง แก่เรียน แต่งตัวด้วยผ้าฝ้ายดุจชาวนา ธรรมดา กลับมีกำลังภายในลึกล้ำสุดหยั่งคาด

จึงกล่าวไปว่า

"พลังฝีมือของท่านเป็นที่แตกตื่น  สะท้านฟ้าดิน ข้าพเจ้า หลี่อิงปู้ นับถือยิ่ง อีกสิบปีให้หลัง จะมารับการสั่งสอนใหม่ จึงใคร่ เรียนถามชื่อแซ่ที่ยิ่งใหญ่ของพี่ท่านอีกครั้งหนึ่ง"

จบคำประสานมือคารวะ

จางเหลียง ก็ คารวะตอบ  กล่าวว่า

"ข้าพเจ้าจางเหลียง สิบปีให้หลังพวกเราค่อยมาพบกันที่นี้อีก"

พลันในกลุ่มโจร กลับร้องเสียงอื้ออึงขึ้น และ ด้านหลัง ได้ยินเสียงชายหญิง อุทานดัง  "เอ๊ะ"


หลี่อิงปู้ กลับกล่าวด้วยเสียงตระหนกว่า

" ท่าน ...ท่านคือ จางเหลียง ที่ลอบปลงพระชนม์ องค์ฉินซีฮ่องเต้ "


จางเหลียงรับคำ

 "ใช่ ข้าพเจ้าเอง"


"ข้าพเจ้า หลี่อิงปู้ มีตาหามีแววไม่ กลับกล้าต่อสู้ กับผู้กล้าผดุงคุณธรรม เรื่องในวันนี้ แล้วกันไปเถอะ  ข้าพเจ้าขอลา "

จบคำ ประสานมือคารวะอีกครั้ง พร้อมกับกระโดดขึ้นหลังม้า ควบขับจากไป เหล่าสมุนโจรป่าย่อมกรูกันติดตามไล่หลังไป

จางเหลียงหันหน้ากลับไปด้านหลัง กลับพบว่า ชายหนุ่มนั้น ประคองหญิงสาวเอาไว้  แล้วพาหญิงสาวนั้น นั่ง พักพิงหลังใต้ต้นไม้ แล้วจึงเดินเข้าหา ประสานมือคารวะจางเหลียงกล่าวว่า

"ข้าพเจ้า เม่อซุน และ พี่สาว เม่อซิวซิว แห่ง สำนักเม่อ เซี่ยพี คาราวะ ท่านผู้มีพระคุณ ผู้กล้าผดุงคุณธรรมจางเหลียง"

จางเหลียงประสานมือ คารวะตอบ

"พี่สาวท่าน ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัสใช่หรือไม่ "


เม่อซุนกล่าวว่า "นั่งพักผ่อนเดินลมปราณ ครู่ใหญ่ พร้อมกินยา ประจำสำนัก ก็จะฟื้นฟูกำลังได้ "


จางเหลียงมองไปที่เม่อซิวซิว เห็น นาง นั่งขัดสมาธิเดินลมปราณอยู่ใต้ต้นไม้

จางเหลียงจึงกล่าวกับเม่อซุนว่า

"ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปดูชายที่นอนอยู่กับพื้นกัน"

จางเหลียงจึงเดินเข้าไปยังชายที่นอนอยู่กับพื้น ย่อกายลง มือ อังที่ปลายจมูก หูแนบหน้าอก

แล้วจึงกล่าว

"เขายังไม่ตาย"

เมอซุนรีบประคองชายคนนั้นลุกนั่ง จางเหลียงทาบฝ่ามือขวา เข้าด้านหลัง ถ่ายทอดกำลังภายในเข้าสู่ร่างกาย  สักครู่หนึ่งชายคนนี้ กลับกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง อุทานออกมาดังอ่า เม่อซุน รีบล่วงมือเข้าไปในอกเสื้อ แกะห่อยาออก ป้อนยาหนึ่งเม็ด ให้กับชายผู้นี้ สักครู่หนึ่ง ชายผู้นี้ กลับลืมตาขึ้น หน้าแดงขึ้น จางเหลียง จึงถอนมือออกจากหลัง

ชายผู้นี้รีบนั่งขัดสมาธิ เดินลมปราณ พักรักษาตัว

ในระหว่างชายหนุ่มคนหนึ่ง และ เม่อซิวซิว นั่งพักรักษา ตัว เม่อซุน ก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองและพี่สาว เป็นศิษย์ สำนักเม่อ เดินทางไปยังสำนักเม่อที่ แคว้นฉินเดิม และแคว้นฉีเดิม เพื่อเกลี่ยกล่อมให้ยุบรวม กันเป็นสำนักเดียว ที่มีทิศทางเดียวกัน แม้ว่าจะยังไม่สำเร็จ แต่ก็เป็นการเริ่มต้น ที่ดี ในระหว่างเดินทางกลับเซี่ยพี่ กลับผ่านเข้าเขตไหวอิง กลับพบกลุ่มโจรป่า หลี่อิงปู้ กำลังล้อมปล้นสดมภ์ชายที่นั่งรักษาตัวผู้นี้  จึงกระโดดเข้าช่วยเหลือ ชายคนนี้ กลับถูกฝ่ามือรัศมีม่วงของหลี่อิงปู้ล้มลง

เหตุการณ์ หลังจากนั้น ก็เป็นเหตุการณ์ที่จางเหลียงมาประสบพบเหตุเข้า

สักพักใหญ่ เม่อซิวซิว กลับลุกขึ้น เดิน มายังทั้งสอง พร้อมย่อกาย คารวะต่อจางเหลียง



" เม่อซิวซิว แห่ง สำนักเม่อ เซี่ยพี คาราวะ ท่านผู้มีพระคุณ ผู้กล้าผดุงคุณธรรมจางเหลียง"

จางเหลียงกล่าวว่า  "มิกล้า มิกล้า"

พร้อมประสานมือ คารวะตอบ

พร้อมกันนั้น ชายที่ได้รับบาดเจ็บ กลับลืมตาขึ้น พร้อมกลับลุกขึ้นยืน

จางเหลียง เม่อซุน และ เม่อซิวซิว กลับ เดินเข้าหา ชายผู้นั้น

ชายผู้นี้รีบ ประสานมือคารวะต่อ บุคคลทั้งสาม พร้อมกล่าวว่า

" ข้าพเจ้า เซี่ยโหวอิง แห่งเพ่ยเสี้ยน คาราวะ ท่านผู้มีพระคุณ ทั้งสาม"

ทั้งสามคน ประสานมือ คารวะตอบ เม่อซุน กล่าว่า

 "มิกล้า มิกล้า  ข้าพเจ้า เม่อซุ่น นี่ เม่อซิวซิว พี่สาวข้าพเจ้า  และนี่ ผู้กล้าผดุงคุณธรรมจางเหลียง"

"เหตุไฉนท่านถึงถูก โจรป่าปล้นชิงได้เล่า" เม่อซุนถามต่อ

เซี่ยโหวอิงกล่าวว่า

"ข้าพเจ้า เดินทางกลับจากเซี่ยพี จะไปเพ่ยเสี้ยน เมื่อมาถึงที่นี้ กลับถูกโจรป่าปล้นชิง "

จางเหลืยงกล่าวว่า

"พวกเรา อยู่ที่นี้นานแล้ว พวกเราไปที่อื่นกันเถอะ "

เม่อซิวซิว กล่าวว่า เสียงสดใสว่า

" ข้าพเจ้าและน้องชาย ใคร่กลับ ไปยังเซี่ยพีโดยเร็ว เพียงแต่พวกเราไม่ทราบจะตอบแทน ท่านผู้มีพระคุณ อย่างไรดี น้องเม่อซุน มอบประกาศิต สำนักเม่อ ให้ ผู้มีพระคุณเถอะ "

เม่อซุน ล้วงเข้าไปในอกเสื้อ ที่ดึงออกมา กลับเป็นแผ่นเหล็กดำประกาศิต สำนักเม่อ พร้อมประคองมอบต่อจางเหลียง เม่อซุนกลัวจางเหลียงไม่รับ รีบกล่าวว่า

"ขอผู้มีพระคุณ อย่าได้รานน้ำใจเราสอง พี่น้อง จงรับไว้เถอะ ถ้ามีโอกาศ เพียงท่าน แสดง ป้ายประกาศิต สำนักเม่อ ท่านสามารถ ขอความช่วยเหลือจากสำนักเม่อได้เต็มที่"

จางเหลียงขณะจะปฏิเสธ กลับ กล่าวไม่ออก  จึงกล่าวว่า

"เมื่อ ท่านสองพี่น้องมีน้ำใจ ข้าพเจ้าจะรับเอาไว้ โอกาศหน้าพวกเราคงได้พบกันอีก "

จางเหลียงจึงรับเอาประกาศิต สำนักเม่อ และสอดเก็บไว้ในอกเสื้อ


เซี่ยโหวอิงพลันกล่าวว่า


"  ท่านผู้มีพระคุณ ทั้งสาม ข้าพเจ้าไม่มีสิ่งใดตอบแทน คราหน้าถ้ามีโอกาศ ขอให้ข้าพเจ้า ตอนรับขับสู้ ท่านทั้งสาม ข้าพเจ้าใคร่ออกเดินทางไป เพ่ยเสี้ยน"


ว่าแล้ว เซี่ยโหวอิง พลันประสานมือ คารวะทั้งสามคน  พร้อมหันหลังกลับออกเดินทาง


ทั้งสามคน ประสานมือ คารวะตอบ

หลังจากนั้น เม่อซุ่น และ  เม่อซิวซิว จึงร่ำลา จางเหลียง กลับ เซี่ยพี


หลังจากแยกจากกันทั้งหมดแล้ว จางเหลียงกลับลัดเลาะกลับทางเดิมไปยังที่ซุกซ่อนม้า

อ่านต่อ  ขอทานแห่งไหวอิง



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Wikipedia

ผลการค้นหา